PR-1 @ 25-02-2020: ฤกษ์บทความแรก อารมัภบท ปฏิรูปอาชีพคนพิการอย่างยั่งยืนแบบองค์รวมในประเทศไทยเสียที

สวัสดีครับทุกท่าน ผมเตรียมงานเว็บไซต์นี้มาแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ก็ยังไม่ได้เริ่มพิมพ์บทความอะไรเพื่อจะเป็นบทความแรก ด้วยหลายสาเหตุ ต้องยอมรับว่า ทั้งกับปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้าโลกของเรา กระทบถึงทุกประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย รวมทั้งปัญหาส่วนตัวที่สืบเนื่องตลอด 2 ปี ที่ผมออกมาขับเคลื่อนพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ เปิดโปงการทุจริตคอรัปชั่นสิทธิ์คนพิการ แล้วโดนฟ้องศาล 5 คดี กับถูกแจ้งความดำเนินคดีอีก 1 คดี ีวม 6 คดี เกินคาดไปมากพอสมควร แต่ก็แลกมากับประสบการณ์จริงที่ต้องขึ้นศาล อาจจะมากที่สุดในชีวิตคนๆ หนึ่งก็ว่าได้ แต่ผมโชคดีที่ผมมีครอบครัวที่ดี ที่เข้าใจ ทำให้สามารถยังคงดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่จะต่อสู้ และยังคงมั่นใจว่า จะยังสามารถสร้างสิ่งใหม่ ให้กับประเทศที่เต็มไปด้วยการทุจริตคอรัปชั่นและประพฤติมิชอบ ที่แทรกซึมไปทั่วทุกหัวระแหงแบบนี้ได้

วันนี้ผมตัดสินใจพิมพ์บทความแรกนี้ ที่ผมเรียกว่า "อารัมภบท" หรือถ้าภาษาชาวบ้าน ก็คือ การบ่นนั่นเองครับ แต่ถ้าทุกท่านได้อ่านจนจบ ท่านอาจจะสามารถแนะนำ หรือผมคิดเอาเองว่า หลายท่านอาจจะอยากเข้ามามีส่วนร่วมกันได้ เพราะผมเชื่อมั่นเหลือเกินว่า ประเทศไทยยังมีคนที่มีความสามารถอีกมากมาย เพียงแต่อาจจะต้องก้าวข้ามบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งตัวผมเองก็จะนำหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นคำถามให้ต้องตอบมาแบ่งปันในลำดับต่อๆ ไป และหวังว่าจะเป็นประโยชน์ทางความคิดกับใครสักคน แม้เพียงคนเดียวก็คุ้มค่าสำหรับผมแล้ว ก่อนจะไปไกล ผมขอเริ่มต้นด้วยภาพชุดนี้นะครับ

ข้าวมันไก่ ที่ภรรยาทำให้ทานเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ครับ

ผมอยากเริ่มจาก สถานการณ์ช่วงนี้ทั่วทั้งโลกมีเรื่องเดียวที่เป็นศูนย์รวมด้วยกัน คือ การระบาดของไวรัส COVID-19 หรือมีชื่อเรียกก่อนหน้าว่า ไวรัสอู่ฮั่น ส่วนชื่อเรียกที่มีการค้นพบเรียกว่า ไวรัสโคโรน่า ไวรัสตัวนี้สำหรับผมแล้ว หรือสำหรับคนทั้งโลก คงจะดังที่สุดในขณะนี้ เพราะว่า สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงหรือส่งผลกระทบกับโลกที่เราอาศัยอยู่ได้อย่างมหาศาล อย่างที่ไม่มีใครที่จะสามารถคาดการณ์ไว้ได้ ผมถือว่าเป็น ซึนามิที่มองไม่ให้เห็นด้วยตา สัมผัสไม่ได้เชิงกายภาพ แน่นอนว่าต้องส่งผลกระทบกับสังคมและเศรษฐกิจมากกว่าวิกฤติใดๆ ที่ผ่านมา งานที่ผมเตรียมไว้ก็เช่นเดียวกัน แต่หากเรามองอีกด้านหนึ่ง วิกฤตการณ์ครั้งนี้เป็นบททดสอบข้อใหญ่ของทุกๆ คนบนโลกใบนี้

วันนี้ผมเริ่มพิมพ์บทความแรกนี้ แต่ขอใช้ภาพถัดไปอีก 2 วัน ภาพนี้ผมอยากสื่อความหมายถึง ครอบครัว ถึงภรรยา ที่คอยสนับสนุนๆ ทุกๆ เรื่องของผม เธอรับไม้ต่อจากคุณแม่และน้องสาวผม ที่ผมสามารถพิมพ์บทความวิทยาทานเหล่านี้ได้ เพราะว่า ภรรยาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้ เธอทำอาหารเก่งมาก มื้อนี้เป็น "ข้าวมันไก่ สูตรชนัญชิดา" ซึ่งแน่นอนอร่อยมาก ทานแต่ข้าวเปล่า ผมว่า ยังโอเค เลยครับ ทานเสร็จจึงร่างบทความนี้ต่อให้เสร็จ หลังจากเริ่มทิ้งไว้มาแล้ว 2 วัน

คีย์บอร์ดที่วางไว้เหนือเข่า เพื่อสะดวกในการพิมพ์ ลดอาการเป็นออฟฟิศซินโดรม

ทางซ้ายมือผม ภาพจำคือ ขวดน้ำเปล่า แก้วกาแฟ และดอกกุหลาบ



เหตุที่ผมเองก็ไม่สามารถจะชะลองานต่างๆ ได้ แม้ว่าจะมีเหตุวิกฤตก็ตาม หลายเรื่องนอกแผน ทั้งแผนทำงาน และแผนการเงินก็ตาม แต่ก็ต้องเดินหน้า อาจจะฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่เรื่องเดียวที่ยังคงเป็นทางออกที่สำคัญอีกทางคือ "การสวดมนต์ทุกวัน" เพราะหากตัวผมเองได้พยายามทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว อีกสิ่งที่ต้องทำคือ การสวดมนต์ สำหรับใครบางคน เฉพาะย่อหน้านี้ ย่อหน้าเดียว อาจเป็นสิ่งมีค่าของบทความนี้ครับ

ก่อนที่จะจบอารัมภบทนี้ ผมขอประกาศถึงความตั้งใจว่า "ถึงเวลาปฏิรูปอาชีพคนพิการโดยไม่ผลาญงบกองทุนคนพิการแม้แต่บาทเดียว" ส่วนจะมีวิธีการอย่างไร โครงการเป็นรูปแบบไหน ก็อยากให้เพื่อนๆ ติดตามอ่านกันนะครับ ก่อนหน้านี้ผมได้ทำเต็มที่แล้วที่จะเปิดโปงขบวนการ และกระบวนการ ทุจริตคอรัปชั่น-ประพฤติมิชอบ เรียกว่า ลุยงานด้านลบไปแล้วแบบสุดๆ ที่คนๆ หนึ่งจะทำได้ ต่อจากนี้จลุยแบบด้านบวก ให้สังคมรับรู้แทน เพราะเป็นอีกตัวอย่าง ให้ผู้เกี่ยวข้องได้เปรียบเทียบ แน่นอนว่า ความตั้งใจผมนั้น มีความแตกต่างจากปัจจุบันที่เป็นอยู่ แม้ผมจะยังลำบากกับสถานการณ์ต่างๆ ก็ตาม ลองดูกันสักตั้งว่า "คนที่ยังลำบากอยู่ จะทำได้สักแค่ไหน" ครับ

รอพบกับทุกโครงการที่จะเปลี่ยนความคิดองใครหลายคนครับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น